วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วัสดุยอดนิยมสำหรับเคาน์เตอร์ครัว

1.ครัวแบบ Custom made Build-in
เป็นชุดครัวที่ทำตามสั่ง คือทำทีละชุดเฉพาะแต่ละบ้านเท่านั้น มีข้อดีในแง่ที่ไม่เหมือนใคร และออกแบบได้ตามใจชอบ ข้อเสียคืออาจจะราคาแพงกว่าแบบ Knock Down เพราะต้องสั่งทำตามแบบทีละชิ้น
2.ครัวแบบ Knock Down Built-in
เป็นชุดครัวที่ถูกออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่เชี่ยวชาญทางด้านชุดครัวโดยตรง สามารถผลิดในลักษณะ Mass Production ได้ มีรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน ประกอบด้วยตู้หลายๆ ตู้ มาประกอบกัน โดยแต่ละตู้ จะมีการออกแบบประโยชน์ใช้สอยไว้เฉพาะแต่ละตู้ วัสดุที่ใช้ในการผลิตชุดครัวแบบ Knock Down นิยมใช้ไม้อัดประสาน (Particle Board) เป็นโครงสร้างหลัก ส่วนวัสดุปิดผิวเป็น Hi-Pressure Laminated (HPL) ซึ่งจะมีความทนทานต่อสารเคมีและรอยขูดขีด

วัสดุยอดนิยมสำหรับเคาน์เตอร์ครัว
1.หินแกรนิต (Granite) หินแกรนิต แข็งแกร่งและทนทาน ทนกรด ด่าง ทนขีดข่วน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทนความร้อนได้ถึง 1200 องศาฟาเรนไฮท์ มีอัตราการซึมน้ำต่ำ หินแรกนิตมีความสวยงามและเสน่ห์ตามธรรมชาติ ดูแลรักษาง่าย มีรอยร้าวและบิ่นตามธรรมชาติ มีสี ลวดลายเส้น หรือ เป็นดอกตามธรรมชาติให้เลือกมากมายหลายแบบ ราคาไม่แพงมาก เป็นความหรูหรา สง่างาม ที่เอื้อมถึงได้ ข้อเสียอยู่ที่ยังมีการดูดซับน้ำมากกว่าวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ หินแกรนิตมีแร่ละเอียด แข็ง ทำให้การยารอยต่อมักไม่ติด


2.หินสังเคราะห์ (Engineered Stone) มีส่วนผสมของแร่หินควอตซ์ แก้ว โพลิเมอร์เรซิ่นและสี คุณภาพสูงกว่า หินแกรนิตและหินอ่อนธรรมชาติ ทนการขีดข่วนมากกว่า ทนความร้อน ทนไฟ ทนกรดด่าง สารเคมี รูปทรงได้ขนาดราบเรียบดีกว่า ซึมน้ำน้อยกว่ามาก มีสี ลวดลาย คุณภาพให้เลือกมากกว่า ตอบโจทย์ในเรื่องของสุขอนามัยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่มีรูพรุนจึงไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อ ข้อเสียอย่างเดียวเห็นจะเป็นราคาที่แพงกว่าหินธรรมชาติค่ะ


3.หินเทียม (Solid Surface) เป็นวัสดุที่ทำจากอะคริลิก มีทั้งแบบ 100% เช่น CORIAN ของอเมริกา และ STARON ของเกาหลี สามารถป้องกันรังสียูวีและมีอายุการใช้งานยาวนาน สีของพื้นผิวไม่เปลี่ยนแปลง  ทนความร้อน กรดและด่าง นิยมในการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และทางการแพทย์ และแบบที่มีส่วนผสมของอะคริลิกและโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความสวยงาม ความแข็งแรงคงทนใกล้เคียงกับพื้นผิววัสดุที่ผลิตขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากนั้นหินเทียมยังมีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ข้อเสียคืออาจเสียหายถ้าโดน
ความร้อนมากหรือรอยเลอะ และราคาแพง


4.กระเบื้องเซรามิค (Ceramic Tile) เป็นกระเบื้องดินเผาเคลือบเซรามิค มีข้อดีที่ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดง่าย ทนความร้อนได้ดี มีหลายแบบหลายราคาให้เลือก จึงทำให้เป็นวัสดุที่หลายๆบ้านเลือกใช้ แต่ข้อเสียคือผิวจะไม่สม่ำเสมอ กระเบื้องอาจแตกหรือหลุดร่อนได้ คราบเปื้อนสามารถไปติดบริเวณยาแนว และจะมีราคาแพงมากถ้าสั่งทำตามแบบที่ดีไซน์เอง


5.ลามิเนต (Laminates) จัดว่าเป็น Top มาตรฐานที่ขายกับชุดครัวในท้องตลาดก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบรนด์ โดยผู้ผลิตรายใหญ่ๆ ได้แก่ FORMICA, NEVAMAR และ WILSONART ซึ่งลามิเนตจะเป็นวัสดุพลาสติกที่มีสีสันหลากหลาย มีทั้งแบบลามิเนตติดกาวและแผ่น MDF Board เป็นท็อปสำเร็จรูปที่มีความหนาประมาณ 20-40 มิลลิเมตร ราคาย่อมเยา สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและสามารถดัดโค้งเข้ารูปทรงได้ตามต้องการ มีหลายสีให้เลือก นอกจากนั้นยังเป็นที่นิยมมากในการทำตู้ชุดครัว แผ่นลามิเนตจะถูกตัดมาตามขนาดและเคลือบผิวมาก่อนจะติดตั้งเลย เหมือนเป็นวัสดุสำเร็จรูป ราคาจึงไม่แพง แต่ข้อเสียคือเมื่อมีรอยขูดขีดจะไม่สามารถซ่อมแซมได้ และเห็นร่องรอยชัดเจน จึงไม่ควรสับหรือทำอาหารบนพื้นผิวเพราะจะก่อให้เกิดรอยขีดข่วน และไม่ควรนำภาชนะร้อนๆ วางลงไปโดยตรง

 

6.ไม้ (Wood) ไม้เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และสามารถทำผิวได้หลายแบบ ทำความสะอาดง่าย สามารถขัดและเชื่อมได้ตามต้องการ แต่วัสดุที่นำมาใช้เป็นท็อปเคาน์เตอร์ต้องเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานกว่าส่วนที่เป็นตู้ ข้อเสียของไม้คืออาจเป็นด่างดวงถ้าโดนน้ำและคราบอาหาร รอยขูดขีดต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ติดตั้ง


7.สเตนเลส สตีล (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่มีความทนทานมาก จึงเหมาะกับครัวที่ใช้งานหนัก เช่นครัวในร้านอาหารที่ทำหารจริงจัง แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเรียบหรู เท่ จึงทำให้ปัจจุบันก็เป็นที่นิยมนำมาใช้ในบ้านที่ต้องการสไตล์แบบโมเดิร์น การเลือกท็อปเคาน์เตอร์ของห้องครัวด้วยสเตนเลส ปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นโดยมีการผสมผสานเรื่องของวัสดุต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยอาจใช้สเตนเลสผสมผสานเข้ากับหน้าบานกระจก หรือหน้าบานไม้ สเตนเลสสามารถทำผิวขัดได้หลายแบบ ทั้งผิวเรียบธรรมดา ลายขนแมว ที่มีการขัดลายเป็นเส้นๆ เป็นลักษณะคล้ายขนแมว และลายเส้นผม ที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ สเตนเลสมีข้อดีที่ทนความร้อน ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดง่ายและสามารถสั่งทำตามแบบ ทำให้ชุดครัวดูสวยเนี้ยบ ไร้รอยต่อ แต่ข้อเสียคือราคาแพง การผลิตที่ยาก และอาจเป็นรอยขูดขีดแลรอยบุบได้ถ้าถูกกระแทก

 

8.หินสบู่ (Soapstone) เป็นหินที่มีส่วนประกอบของแร่ทัลค์ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางนั่นแหละค่ะ ทำให้หินสบู่มีผิวที่เนียนเรียบ ตามปกติหินสบู่จะมีสีค่อนข้างเข้ม มักถูกใช้เป็นวัสดุในบ้านสมัยก่อน แต่ปัจจุบันก็นิยมมาใช้กับท็อปเคาน์เตอร์ และอ่างซิงค์ หินสบู่มีข้อดีที่ทนความร้อน คราบเปื้อน และกรด ด่างต่างๆ แต่ช้อเสียอยู่ที่การดูแลรักษาที่ยุ่งยากซักหน่อย คือต้องใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำแร่มาเช็ดทำความสะอาด เพื่อไม่ให้สีของหินเปลี่ยนไปตามเวลา นอกจากนี้ยังสามารถแตกร้าวได้ง่ายด้วย


9.หินอ่อน (Marble) หินอ่อนเป็นวัสดุที่แสดงถึงความหรูหรา สวยงาม ด้วยราคาที่แพงจึงไม่คอยเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ทำชุดครัวทั้งชุด แต่จะใช้บางส่วน เช่น บริเวณเคาน์เตอร์ลอยตรงกลาง (Island Counter) หินอ่อนยังสามารถทนน้ำและความร้อนได้ดี แต่ต้องการการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะหินอ่อนเป็นคราบเปื้อนง่าย และยังเป็นรอยขูดขีดง่ายอีกด้วย

 

10.คอนกรีต (Concrete) เหมาะสำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่มีรูปร่างเฉพาะ สั่งทำตามแบบได้เลย เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกดิบและไม่เหมือนใคร และสามารถทำผิวตกแต่งได้หลายแบบ หรือทำสีก็ได้ อย่างที่หลายคนทราบว่าคอนกรีตเป็นวัสดุที่มีความทนทานมาก จึงทนความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี แต่ข้อเสียคือมีรูพรุน จึงอาจดูดน้ำ และอาจแตกร้าวได้ถ้าติดตั้งไม่ดี ราคาแพงถ้าแบบยาก

THANK : http://www.forfur.com/แต่งบ้าน/10วัสดุที่นิยมใช้สำหรับเคาน์เตอร์ครัว